การมีผิวที่ไม่สม่ำเสมอและเป็นคลื่นบริเวณสะโพก ต้นขา หรือบั้นท้าย อาจเป็นสัญญาณของเซลลูไลท์
รู้หรือไม่ ปัญหาเซลลูไลท์ หรือผิวเปลือกส้ม ไม่เพียงเกิดขึ้นกับคนที่มีรูปร่างอ้วนเท่านั้น แต่ยังสามารถเกิดขึ้นกับคนที่ผอมได้เช่นเดียวกัน เพราะในร่างกายบางส่วนของคนที่ผอม ก็ยังคงมีไขมันสะสมอยู่
เซลลูไลท์ เกิดจากเส้นใยคอลลาเจนที่ล้อมรอบเซลล์ไขมันมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่เป็นสาเหตุหลักของเซลลูไลท์คือ "กระบวนการไกลเคชั่นของคอลลาเจน" หรือเป็นการรวมกันระหว่างเส้นใยคอลลาเจนและโมเลกุลน้ำตาลกลูโคส ทำให้การเรียงตัวของเส้นใยคอลลาเจนนั้นไม่เป็นระเบียบซึ่งนำไปสู่การสูญเสียความสามารถ
พยุงผิวของคอลลาเจน เซลลูไลท์จะบวมขึ้น และผิวหนังชั้นในรวมถึงเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังจะโผล่ขึ้นมาให้เห็นได้ชัดเจน ทำให้ผิวหนังเห็นเป็นคลื่นไม่เรียบเนียน ซึ่งการจะเห็นเซลลูไลท์ได้อย่างชัดเจนนั้นขึ้นอยู่กับหลายๆ ปัจจัย เช่น เพศ อายุ ยีนส์ และปริมาณไขมันในร่างกาย
เซลลูไลท์จะมีทั้งหมด 4 ระยะที่แตกต่างกัน:
ระยะ 0 ไม่มีผิวเปลือกส้ม สภาพดี
ระยะ 1 เริ่มปรากฏผิวเปลือกส้มขึ้นมาเมื่อบีบบริเวณผิว
ระยะ 2 จะสามารถมองเห็นผิวเปลือกส้มได้เมื่อยืนเท่านั้น
ระยะ 3 จะสามารถมองเห็นผิวเปลือกส้มได้ทั้งตอนยืนและนั่ง
เซลลูไลท์สามารถถูกจำแนกออกเป็น 4 ประเภท:
เซลลูไลท์ที่มีลักษณะบวมน้ำ - จะเกิดการกระเพื่อมเล็กน้อยบนพื้นผิวเมื่อแตะบนผิว
เซลลูไลท์ที่เป็นเส้นแข็ง - ผิวหนังแข็ง มีเซลลูไลท์ปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน
เซลลูไลท์ที่เป็นเส้นใยนิ่ม - สามารถมองเห็นผิวเป็นริ้วคลื่นและรอยพับ
เซลลูไลท์ที่มีลักษณะเป็นไขมัน - ผิวมีรอยพับ และไขมันสะสมอยู่เป็นจำนวนมาก
วิธีการดูแลปัญหาด้วยวิธีแบบธรรมชาติ
มีหลากหลายวิธีในการดูแล Cellulite ตามหลักการธรรชาติ เช่น
การนวดเพื่อสลายเซลลูไลท์ ต้องอาศัยเทคนิคการระบายน้ำเหลือง เพื่อขับของเสีย และลดการสั่งสมใต้ผิว